-> " CalCool " โครงการสร้างสรรค์ เพื่อร่วมช่วยแก้ปัญหาการศึกษาไทย

Hits: 5037

 

การศึกษาไทย

       เราคงได้รับรู้ข่าวสารจากสื่อต่างๆ กันมาบ้างแล้ว ถึงความถดถอยด้านการศึกษาของประเทศไทยเรา ซึ่งเห็นได้จากตัวชี้วัดหลายๆ ตัวที่แสดงผลออกมา ด้วยแนวโน้มอย่างเดียวกัน

       โดยเฉพาะ วิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นพื้นฐานของหลายๆ วิชา และมีความจำเป็นอย่างมากในการ พัฒนา และ ประยุกต์ศาสตร์ต่างๆ ที่สำคัญที่จะใช้ในการพัฒนาประเทศต่อไป

 

ตารางแสดง ผลการประเมินของ PISA*  ปี 2012

( *โครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment หรือ PISA) ริเริ่มโดยองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ OECD) มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินคุณภาพของระบบการศึกษาในการเตรียมความพร้อมให้ประชาชนมีศักยภาพหรือความสามารถพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง   ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.http://pisathailand.ipst.ac.th/ )

ผลการประเมินจากสถาบันต่างๆ ชี้ให้เห็นตรงกันว่าเด็กไทยจำนวนมาก ยังอ่อนทักษะทางด้านคณิตศาสตร์

 

- **O-NET  ผลคะแนนเฉลี่ย วิชา คณิตศาสตร์ พ.ศ.2557 ของนักเรียนทั้งประเทศ ได้เพียง 21.74  จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน

- PISA 2012  ในวิชาคณิตศาสตร์นั้น  คะแนนเฉลี่ยของเด็กไทย ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของเด็กทั่วโลกถึง 67 คะแนน  แสดงให้เห็นว่าเรายังวิ่งตามหลังชาติอื่นๆ อยู่อย่างไกลโข

- ***TIMSS  ผลการประเมิน ระดับความสามารถทางการเรียนคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้น ม.2 ปี 2011 ของไทย พบว่ามีนักเรียนได้ระดับต่ำสุด หรือ ต่ำกว่า 1 อยู่ถึง 38%

- ในระดับมหาวิทยาลัย  จากการสุ่มสำรวจของทีมงาน แคลคูล ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง(ปีการศึกษา 2556)  ที่มีการเรียนการสอน วิชา Calculus 1 พบว่า มีอัตราการ ดร็อปเรียน  ถึง 17% หรือ 553 คน จากนักเรียนที่ลงเรียนทั้งหมด 3,253 คน

 

       จากผลการประเมินต่างๆ ดังกล่าว สื่อให้เห็นถึงพื้นฐานทางวิชา คณิตศาสตร์ ของเด็กไทย ที่ถ้ามีไม่เพียงพอแล้ว จะทำให้เกิดความยากลำบากในการเรียนต่อยอดต่อไป

       พวกเราจึงรวมตัวกัน ก่อตั้ง โครงการ CalCool โดยหวังว่า จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาของด้านการศึกษา ของสังคมไทยได้บ้าง

 

พี่เสือ และ พี่ม้า ผู้ก่อตั้ง CALCOOL EDUCATION

 

-พี่เสือ (Mr.CalCal CalCool) ผู้ถ่ายทอดความรู้ ที่มี passion และ รักในวิชา คณิตศาสตร์ จนเป็นส่วนหนึงของชีวิต ประสบการณ์เรียนและสอนมากกว่า 10 ปี จนกลั่นกรองให้เข้าถึงแก่นแท้ของการสอนคณิต ทำให้ผู้เรียนเข้าใจและสัมผัสได้ ถึงเนื้อหาการเรียนนั้นๆ

-พี่ม้า แคลคูล  มีทักษะด้านการบริหารงาน และ สร้างสื่อมัลติมีเดีย มองเห็นภาพรวมของปัญหา กระบวนการการดำเนินงาน จึงเป็นหนึ่งแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้โครงการเกิดเป็นรูปธรรมอย่างจริงจังขึ้นมาได้

จากผู้เริ่มต้น 2 ท่าน ที่ร่วมสร้างสรรค์ผลงานอย่างลงตัวจนเเป็นระบบช่วยเหลือการเรียน ที่มีผู้ใช้งานแล้วนับแสนคน ทั่วประเทศ  

 

แนวคิดการดำเนินงาน

       หน้าที่หลักของโครงการ คือ การผลิตสื่อการสอน วิชาคณิตศาสตร์ ให้ผู้ที่สนใจเข้ามาใช้งานและทบทวนเนื้อหาการเรียนของตนเองได้ที่ www.calcoolacademy.com โดย ข้อดีคือ สามารถเรียนออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลาที่มีอินเตอร์เนต  ด้วยระบบการสอนอย่างสร้างสรรค์ ฮาๆ ที่พี่ม้ากับพี่เสือ ช่วยกันออกแบบ ที่ผู้เรียนจะเรียนกันได้อย่างสนุกสนาน

       นอกจากนั้น ยังสร้างสังคมการเรียนรู้ ที่ทุกคนสามารถ สอบถาม ปรึกษา และแชร์ประสบการณ์การเรียนกันได้ด้วย www.facebook.com/calcool

 

รูปแบบการดำเนินงานของ แคลคูล

       ในช่วงแรกของการดำเนินงาน เราได้สร้างคลิปสอนให้ผู้เรียนสามารถดูได้ฟรี  โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน และ บุคคล ต่างๆ ที่เห็นความสำคัญของโครงการ ทำให้การสร้างสรรค์ผลงานเป็นไปดี

       แต่ปรากฏว่าเมื่อทุนสนับสนุนหมด โครงการก็ไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้  ทีมงานจึงคิดทำระบบเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และทุกฝ่าย (ตัวโครงการเอง - ผู้เรียน - สังคม) ได้ประโยชน์

       โดยจัดให้มีการสนับสนุนโครงการ ในรูปแบบของการเติมชั่วโมงเรียน ด้วยราคามิตรภาพ ที่ผู้เรียนสามารถจ่ายได้โดยไม่ลำบากนัก และสามารถทบทวนเนื้อหาได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งจะทำให้โครงการมีรายได้ไปสร้างสรรค์ผลงาน สร้างสื่อการสอนเรียนฟรีให้น้องในระดับมัธยมศึกษา เพื่อปรับพื้นฐานคณิตฯ ให้เข้มแข็งตั้งแต่ยังเด็ก  

       โดยมีพี่ระดับมหาวิทยาลัย คอยช่วยเหลือด้วยการเติมชั่วโมงเรียนสนับสนุนโครงการ ซึ่งรุ่นพี่ก็ได้ความรู้ในการใช้ศึกษาต่อยอดต่อไป  นอกจากนั้น แคลคูล ยังจะสามารถมีการช่วยเหลือสังคม ในรูปแบบอื่นๆ และเกิดความยั่งยืนได้ในเวลาเดียวกัน  

 

ผลการดำเนินงาน ในระยะ 1 ปี (2014-2015) มีผลตอบรับที่ดีมาก และดีเพิ่มขึ้นอีกในปีต่อมา

- มีผู้เข้ามาใ่ช้งานเว็บไซต์ของเรา มากกว่า 2 แสน คน/ปี (www.calcoolacademy.com และ www.mistercalcal.com)

- เมื่อมีการเปิดให้มีระบบการสมัครสมาชิก calcoolacademy.com มีผู้สมัครถึง 2,400 คน ภายใน 1 ปี ทั้งที่เนื้อหายังไม่เสร็จสมบูรณ์ และเพิ่มเป็น มากกว่า 6 พันคน ในปีต่อมา

- จำนวนยอดไลค์(Organic) เฟสบุ๊คแฟนเพจ ของแคลคูล ซื่งช่องทางสื่อสารกับผู้เรียน และแหล่งแชร์ความรู้กัน  เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน (2016) มีมากกว่า 26,000 likes 

- ยอดวิว ใน ยูทูปแชนแนล ของ แคลคูล มีผู้มาใช้งานดูคลิปเรียนรู้โดยเฉลี่ย 1 ล้านวิว ต่อปี

 

ตัวอย่างผลตอบรับ และ ข้อคิดเห็นของน้องๆ จะช่วยให้เราก้าวและพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคง

ผลตอบรับต่างๆ ที่มีเข้ามา ชี้ให้เห็นว่าเรากำลังเดินมาถูกทาง ในเส้นทางของการ มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาการศึกษาของประเทศ

        เราคงเคยได้ยินทฤษฎีเกี่ยวกับ ผีเสื้อกระพือปีก ว่า เมื่อผีเสื้อกระพือปีกแล้ว อาจทำให้เกิดพายุใหญ่  เด็ดดอกไม้ดอกเล็กๆ อาจสะเทือนถึงดวงดาว ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นและสอดคล้องกันเสมอ

       ทีมงานแคลคูล เริ่มต้นจากจุดความคิดเล็กๆ ของคนธรรมดาแค่ 2 คน ที่อยากช่วยเหลือสังคม เริ่มลงมือปฏิบัติจนเห็นเป็นรูปธรรมขึ้นมา เริ่มมีเครือข่าย บุคคล และองค์กรหลายๆ แห่งเห็นความสำคัญและช่วยเหลือมากขึ้น  ทีมงานต้องขอขอบคุณทุกๆ ท่าน ที่ช่วย เคี่ยวเข็น ผลักดัน กันมาจนถึงทุกวันนี้

       ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า การที่จะมีส่วนร่วมช่วยแก้ปัญหาของประเทศที่ดูยิ่งใหญ่นั้น ไม่ได้ยากเกินไปเลย ขอแค่เริ่มต้นจากตัวเรา และลงมือทำมันอย่างจริงจัง เท่านั้นเอง.

พี่ม้า แคลคูล

**(Ordinary National Educational Test)  คือ การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน  เป็นการทดสอบเพื่อวัดความรู้และความคิดของนักเรียนชั้น ป.6 ชั้น ม.3 และ ชั้น ม.6 ประเมินตามมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จำนวน 51 มาตรฐานการเรียนรู้ ; http://www.niets.or.th/th/

***โครงการศึกษาแนวโน้มการจัดการศึกษาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของนักเรียนไทยเทียบกับนานาชาติ (Trends in International Mathematics and Science Study; TIMSS) เป็นโครงการที่สมาคมนานาชาติเพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา (International Association for the Evaluation of Educational Achievement; IEA) ; www.http://timssthailand.ipst.ac.th/

 

-> บทสัมภาษณ์ ทีมงาน CalCool จากหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ

Hits: 5113

  เด็กไทยควรมีโอกาสเข้าถึงความรู้อย่างเท่าเทียมที่มาของ“แคลคูล”นักสอนคณิตศาสตร์ออนไลน์สุดกวนฮีโร่ของน้องๆ ที่อยากเก่งเลขแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์
สวมหน้ากากเสือ สอนเนื้อหาคณิตศาสตร์สุดขึงขัง ท่าทาง น้ำเสียง ดุ เข้ม แต่แอบ “กวนประสาท” มีสหายคนสนิท คือ “พี่ม้า”, “พี่แฟ้ม” กับบรรยากาศห้องเรียนสุดชิล ทั้งแนว ป่าเขา ทะเล ดาดฟ้า ฯลฯ เพื่อลดอุณหภูมิเคร่งเครียดระหว่างสอน
นี่คือภาพจำของคนวัยมันเมื่อนึกถึงกลุ่มคนใจดีนักสอนคณิตศาสตร์ออนไลน์ ที่ชื่อ “แคลคูล” (CalCool) หรือชื่อเต็มๆ ว่า “แคลคูล มันส์สมองออนไลน์” ที่โลดแล่นอยู่ในสังคมออนไลน์มาประมาณ 3 ปี แล้ว
โดยฝีมือการสอนของหนุ่มมาดเข้ม “พี่เสือ” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “Mr.CalCal” (มิสเตอร์แคลแคล) ผู้ปฏิวัติความเข้าใจในคณิตศาสตร์ของเด็กไทย ด้วยวิธีการสอนสุดต่าง และช่าง “ทำไปได้”
“ที่เลือกใส่หน้ากาก เพราะอยากให้คนคอมเม้นต์แรงๆ ผมจะได้ปรับปรุงตัว ส่วนที่ต้องเป็นหน้ากากเสือ มีสองประเด็น หนึ่งเลยตอนที่ทำปีถัดไปเป็นปีเสือ (พ.ศ.2553) และสอง การสอนเลขต้องการความนิ่ง ดุ ขึงขัง แต่หน้ากากเสือ มันจะดุแบบกวนประสาท”
Mr.CalCal หรือ พี่เสือของน้องๆ บอกที่มาของหน้ากากเสือ ตัวสะท้อนอารมณ์ “ดุแต่กวนประสาท” ในแบบที่ถูกใจคนสอน ขณะที่เมื่อเอาไปคุยกับเพื่อนร่วมทีม ก็ไม่มีขัดคอ แต่กลับ “เอาด้วยคน” ขอสวมหัวเป็น “พี่ม้า” เพื่อมาช่วยเอ็นเตอร์เทนการสอนของเขา

 อ่านต่อ คลิก...

-> มารู้จัก "เทใจ" กับการสนับสนุนโครงการ CalCool ของเรา

Hits: 3911

 

เทใจ.คอม   มีจุดเริ่มต้นจากความต้องการช่วยเหลือกลุ่มคนที่อยากทำเรื่องดีๆ เพื่อสังคม ซึ่งก็มีทั้งที่เป็นองค์กรไม่แสวงกำไร NGOs กลุ่มคน  และกิจการเพื่อสังคม (social enterprise) เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถทำเรื่องดีๆ ให้เกิดขึ้นจริง และขยายผลได้

และต่อไปนี้คือตัวอย่าง การโฆษณา เพื่อระดมทุนให้กับโครงการ CalCool

 

     ถ้าไม่เงินเรียนพิเศษจะทำอย่างไร มาช่วยพี่เสือกู้โลก ด้วยการสนับสนุนการสร้างคลิปคณิตศาสตร์ให้เด็กไทยได้เรียนฟรีกันเถอะ

ที่มา/ความสำคัญโครงการ :

“ขอบคุณสำหรับ...การติวดีๆๆที่ทำให้นู๋เข้าใจ
เพิ่งจะเข้าใจว่าไม่ต้องเสียตังค์...ก้อหาอาจาร์ยดีๆๆได้“
@Gu Nampueng


"ขอบคุนพี่เสือมากๆเลยนะครับ ตอนแรกผม F มาหลังจากที่ได้ดูพี่เสือแล้ว ผมผ่านแคลแล้วว ได้มาตั้ง B แหน่ะ ขอบคุนมากๆน๊ะครับ” @Doctorpem BloddDunk

“พี่สอนดีมากทำให้ผมทำข้อสอบได้ ขอบคุณค้าบบบบบ คนดี ๆ อย่างพี่อยากให้มีเยอะๆ จังคับ” @Ball Ctn

มากกว่า 11,000 like ใน Facebook มากกว่า 1,000 คำถามจากนักเรียน-นักศึกษาทีี่เข้ามาโพสให้พี่ MR.CalCal Calcool ช่วยสอนคณิตศาศตร์คงเป็นเครื่องการันตีได้ว่า

คณิตศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เม่ื่อเรียนเลขสนุกๆ กับ Calcool Team
 

ปัจจุบันประเทศไทยมีการแข่งขันด้านการศึกษากันสูงปรี๊ด จะสอบแต่ละทีนักเรียน นักศึกษาทั้งหลายต้องขวนขวายเพิ่มเติมเพื่อให้ทำข้อสอบผ่านด้วยคะแนนดีๆ แม้ว่าอาจารย์ที่สอนเก่งๆ มีวิทยายุทธ์ในการถ่ายทอดความรู้แบบย่อยง่ายเข้าใจไม่ยากมีอยู่เยอะก็จริง แต่ส่วนใหญ่มักไม่ได้สอนอยู่ในระบบ ทำให้นักเรียนต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากไปเรียนกวดวิชาเพิ่มเติมเพื่อให้มีความรู้เพียงพอในการนำไปสอบ อีกทั้งการเรียนการสอนในระบบยังมีข้อจำกัดเรื่องเวลาและความสามารถในการถ่ายทอดวิชาความรู้ของครูผู้สอน รวมถึงศักยภาพของนักเรียนนักศึกษาเองที่หลายคนแม้จะตั้งใจเรียนแต่ก็เรียนในระบบไม่รู้เรื่อง จึงมีความจำเป็นต้องหาความรู้เพิ่มเติมอีก

 

 

ทีมงาน CALCOOL ใส่หน้ากากเสือในการสอน อธิบายเนื้อหาด้วยภาษาง่ายๆ และถ่ายทำวิดีโอการสอนตามสถานที่ต่างๆ เปลี่ยนบรรยากาศไปเรื่อยๆ เพื่อให้ผู้เรียนไม่เครียดและสนุกกับการเรียน  สามารถเข้าถึงความรู้ได้ง่ายทุกที่ทุกเวลาผ่านอินเทอร์เน็ต

ประโยชน์ของโครงการ :

1.ด้านการศึกษาเนื้อหาวิชาการ เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกเวลาทั่วประเทศ
2.ด้านการสนับสนุนการศึกษา เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนมัธยมปลายในโรงเรียนที่ห่างไกลทั่วประเทศในการเข้าถึงเนื้อหาและสามารถศึกษาเพิ่มเติม
3.ลดปัญหาภาระค่าใช้จ่ายเพื่อเรียนกวดวิชา รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพราะผู้เรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย
4.ลดเวลาในการเดินทางและศึกษาหาความรู้เพราะสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาสำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
5.สนุกกับการเรียน เข้าใจง่ายด้วยบรรยากาศสถานที่ต่างๆ และภาษาที่เป็นกันเองของผู้สอน
6.ปลูกฝังให้ผู้เรียนอนุรักษ์ธรรมชาติไปในตัวเนื่องจากสถานที่ถ่ายทำเป็นแนวธรรมชาติ

 

ท่านสามารถอ่านบทความเพิ่มเติม และติดตามข่าวสารดีๆ ของผู้คนที่ทำประโยชน์เพื่อสังคมอื่นๆ ได้ที่  เทใจ.คอม

ที่มา https://taejai.com/

-> PISA กับการเสนอภาพของ ระบบการศึกษา

Hits: 4268

PISA คืออะไร

        สิ่งสำคัญที่ประชาชนพลเมืองในโลกปัจจุบันควรจะต้องรู้    และสามารถทำอะไรได้บ้าง?    คำถามนี้เป็นหัวใจในการศึกษาสำรวจของ   PISA   ที่ดำเนินการสำรวจนักเรียนอายุ 15 ปีทั่วโลก   และดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกๆ สามปี     โครงการศึกษาวิจัยนี้เป็นที่รู้จักกันในนามของ   โครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติหรือ   PISA ( Programme for International Student Assessment )   ซึ่งดำเนินการโดยองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจหรือ OECD (Organisation for Economic Co-operation and Development)    เพื่อประเมินว่านักเรียนที่กำลังจะจบการศึกษาภาคบังคับ    ได้รับความรู้และทักษะสำคัญหลักๆ    ที่จำเป็นต้องใช้ในการมีส่วนร่วมในสังคมปัจจุบันมากน้อยเพียงใด    การประเมินผล   PISA    เน้นให้ความสำคัญกับ   การอ่าน   คณิตศาสตร์  วิทยาศาสตร์   และการแก้ปัญหา  PISA   ไม่ต้องการให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้เรียนมาตอบข้อสอบ   หากต้องการรู้ว่านักเรียนสามารถขยายความรู้จากสิ่งที่ได้เรียนและสามารถใช้ความรู้นั้นๆ   ในสถานการณ์ใหม่ ๆ   ที่ไม่เคยชินทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียนได้มากน้อยเพียงใด     วิธีคิดแบบนี้สะท้อนความเป็นจริงว่าเศรษฐกิจสมัยใหม่มิได้ให้ผลตอบแทนแก่ปัจเจกชนว่าเขารู้อะไร   แต่ให้แก่คนที่รู้ว่า จะทำอะไรได้บ้างจากสิ่งที่ได้รู้มา

 


       PISAเป็นโครงการต่อเนื่องที่มีจุดประสงค์   เพื่อนำเสนอภาพที่ชัดเจนของระบบการศึกษา   แก่ระดับนโยบายและฝ่ายปฏิบัติ   และช่วยให้สามารถติดตามแนวโน้มของความรู้และทักษะของนักเรียนในประเทศต่างๆ     และนักเรียนต่างกลุ่มภายในประเทศหนึ่งๆ    ผลการประเมินของ PISA   ชี้ให้เห็นว่าอะไรที่สามารถทำได้ในระบบการศึกษา   โดยแสดงให้เห็นว่านักเรียนในประเทศที่มีผลการประเมินสูงสุด   และประเทศที่มีการยกระดับคุณภาพระบบการศึกษาได้รวดเร็ว  เขาทำอะไรกันบ้าง ข้อมูลที่  PISA พบ  จะทำให้ประเทศต่าง ๆ   สามารถเปรียบเทียบความรู้และทักษะของนักเรียนในประเทศของตนกับประเทศอื่นๆ  สามารถกำหนดเป้าหมายเชิงนโยบายโดยดูจากระบบการศึกษา     ของประเทศที่ประสบความสำเร็จ   และสามารถเรียนรู้จากนโยบายและแนวปฏิบัติที่ใช้อยู่ในประเทศอื่นๆ   แม้ว่า PISA  จะไม่สามารถระบุได้ถึงความสัมพันธ์ในเชิงของเหตุ    และผลระหว่างนโยบาย/แนวปฏิบัติ    กับผลการเรียนรู้ของนักเรียน     แต่ก็สามารถแสดงให้นักการศึกษา ผู้กำหนดนโยบาย     และสาธารณชนที่สนใจเห็นว่า    ระบบการศึกษามีความแตกต่างหรือเหมือนกันอย่างไร    และมีความหมายอย่างไรกับนักเรียน

 ท่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความหมาย ที่มา และผลการประเมินการทดสอบต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่   http://pisathailand.ipst.ac.th/

 ที่มา: ผลการประเมิน PISA2012 คณิตศาสตร์ การอ่าน และวิทยาศาสตร์ นักเรียนรู้อะไร และทำอะไรได้บ้าง , โครงการการ PISA  ประเทศไทย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี